9 ข้อที่คุณควรรู้ กับไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ที่ไม่ไกลตัวอีกต่อไป

นาทีนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (Covid19) ที่ยังคงเป็นที่จับตามองของประชาชนทั่วทุกมุมโลกเพราะไวรัสชนิดนี้ระบาดไปยังหลายประเทศแล้ว วันนี้ไวรัสโคโรน่าจึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะฉะนั้นมารู้จักและรับมือกับเชื้อไวรัสชนิดนี้ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณและคนใกล้ตัว

1.ไวรัสโคโรน่า ระบาดในเมืองอู่ฮั่น(Wuhan) และมณฑลหูเป่ย(Hubei) ประเทศจีน เมื่อเดือนธันวาคม 2562

2.เริ่มแรกเป็นการติดจากสัตว์กับสัตว์ก่อน จากนั้นเริ่มแพร่สู่คนโดยมีแหล่งกำเนิดจากตลาดค้าขายเนื้อสัตว์ป่า ในมณฑลอู่ฮั่น ประเทศจีน ที่คาดว่าแพร่เชื้อมาจากงูที่กินค้างคาวมีเชื้อโรคเข้าไป และคนนำงูเหล่านี้มาขายต่อจึงแพร่สู่คน

3.ไวรัสชนิดนี้อันตรายในการทำลายปอด ติดต่อผ่านทางลมหายใจ สารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก น้ำลาย แพร่กระจายผ่านละอองเสมหะ (Droplets)

4.เชื้อจะแพร่กระจายไปกับฝอยละอองซึ่ง มีขนาดใหญ่กว่า 5 ไมครอน จะฟุ้งในอากาศไม่นาน และแพร่ไปไม่ไกลมาก จากนั้นจะตกลงสู่พื้น

5.อย่างที่บอกว่าเชื้อไวรัสชนิดนี้ ติดต่อผ่านการหายใจเอาอากาศที่มีเชื้อเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ เพราะฉะนั้นควรระวังไม่เข้าใกล้ผู้ป่วย หรือหลีกเลี่ยงผู้ที่มีอาการไอ จาม ในระยะน้อยกว่า 1 เมตร

6.ยกตัวอย่างให้เห็นภาพได้ชัด เช่น ถ้าผู้ป่วยจามใส่โต๊ะหรือสิ่งของ แล้วเราเอามือไปจับที่โต๊ะ หรือสิ่งของนั้นๆ แล้วเอามือมาจับหน้า จับตา จับปาก จับจมูก ไวรัสจะเดินทางสู่ระบบทางเดินหายใจเรา และทำให้เราติดเชื้อได้

7.วิธีป้องกันทำได้โดยง่าย หลังจากการสัมผัสสิ่งของต่างๆ ให้หมั่นรักษาความสะอาดมือ อาจจะล้างมือด้วยสบู่ เจล หรือ สเปรย์แอลกอฮอล์

8.ถ้าใครที่มีผิวบอบบาง แนะนำให้เลือกสบู่หรือเจลที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ สำหรับเด็กๆ อย่างเด็กแรกเกิดที่มีผิวบอบาง แพ้แอลกอฮอล์ คุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะเลือกใช้ทิชชูเปียกแทน ซึ่งตัวทิชชูสามารถทำความสะอาดได้ทุกส่วนของร่างกาย

9.เวลาต้องไปในที่ชุมชนแออัด ควรหยิบหน้ากากอนามัยมาใส่อยู่เสมอ จะเลือกใส่หน้ากากธรรมดา แบบที่ใช้ในห้องผ่าตัด (surgical mask) หรืออาจจะใส่หน้ากาก N95 ก็ได้

มาเช็คอาการเพิ่มเติม ว่าคุณมีอาการเหล่านี้หรือไม่?

  1. มีไข้ อาการคล้ายหวัด
  2. หายใจเหนื่อยหอบ
  3. มีอาการจาม ไอแห้งๆ
  4. เจ็บคอ มีน้ำมูก
  5. มีอาการท้องเสียและถ่ายเหลว